Citi Bistro
บุพเฟ่ต์อาหารฝรั่งเศสและนานาชาติ โรงแรมปทุมวันปริ้นเซส
เมื่อพูดถึงอาหารฝรั่งเศสหลายคนคงจะนึกถึงอาหารปริมาณจุ๋มจิ๋มหน้าตาหรูหราซึ่งถูกจัดแต่งไว้อย่างสวยงามและถูกนำมาเสิร์ฟตามลำดับเป็นชุดๆ มีการใช้จาน มีด ช้อน ส้อมอย่างเป็นระบบ คนซึ่งเข้าไปรับประทานอาหารในร้านต้องแต่งตัวอย่างดีมีมารยาท ด้วยความประณีตและพิถีพิถันนี้เองที่อาจจะทำให้ผู้ซึ่งไม่ใช่คุณหญิง คุณนายหรือคุณชายตระกูลผู้ดีเก่าหลายๆคนรู้สึกกระอักกระอ่วนใจในยามที่คิดอยากจะไปลองลิ้มชิมอาหารฝรั่งเศสดูสักครั้งหนึ่งในชีวิต คราวนี้พวกเราทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) จึงขออาสาพาท่านผู้มีอุปการคุณทุกๆท่านมาทำความรู้จักกับ “บุฟเฟ่ต์อาหารฝรั่งเศสและอาหารนานาชาติ” ณ ห้องอาหาร “Citi Bistro” โรงแรม “Pathumwan Princess” ที่ซึ่งคุณจะสามารถแต่งตัวสบายๆ พองาม ไม่ต้องเกร็งตามมารยาทมากมายนักและแม้ว่าจะใช้อุปกรณ์ในการรับประทานอาหารจำพวกจาน มีด ช้อน ส้อมผิดแปลกจากมาตรฐานปกติของอาหารฝรั่งเศสไปบ้างก็จะไม่มีใครมายืน/นั่งจ้องคุณด้วยสายตาประณามหยามเหยียด แถมยังสามารถเลือกรับประทานอาหารชนิดที่ชื่นชอบได้จนพุงกลมเลยทีเดียว
บรรยากาศดูเรียบง่าย และมีความหรูหราอยู่ในที |
ซุ้มอาหารนานาชาติเราจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดีน้าี |
พวกเราทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมตัดสินใจมารับประทานอาหาร ณ ห้องอาหาร “Citi Bistro” ในช่วงขณะที่กำลังมีการจัด promotion บุฟเฟ่ต์อาหารฝรั่งเศสโดย “Chef Christophe Perrin” ค่าหัวบุฟเฟ่ต์ท่านละ 1,300 ++ บาท มา 4 ท่านรับประทานฟรี 2 ท่าน (กรณีใช้สิทธิตาม promotion ค่าหัวเฉลี่ยอยู่ที่คนละ 700 ++ บาท) ซึ่งบอกได้เลยว่าหากไม่มีการจัด promotion ขึ้นมาล่ะก็ทีมงานของเราคงไม่มีทางตัดสินใจมารับประทานอาหารสุดแพงมื้อนี้แน่นอน (สำหรับผู้ที่มีสตางค์เหลือกินเหลือใช้มากมายก่ายกองอาจจะคิดว่าบุฟเฟ่ต์อาหารฝรั่งเศสมื้อนี้ไม่แพงสักเท่าไหร่เมื่อเทียบกับการไปรับประทานอาหารฝรั่งเศสตามร้านทั่วๆไป แต่สำหรับคนเบี้ยน้อยหอยน้อยเฉกเช่นพวกเราทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมขนาดมารับประทานแบบใช้ promotion ยังรู้สึกว่าแพงเลยครับ) อาหารทุกชนิดนั้นสามารถเลือกตักหรือสั่งปรุงได้ไม่จำกัดจำนวนและไม่จำกัดเวลาในการรับประทานตามมาตรฐานบุฟเฟ่ต์โรงแรมทั่วๆไป (มีเวลาในการรับประทานตั้งแต่ประมาณ 18.00 – 21.00 น.สำหรับบุฟเฟ่ต์มื้อเย็นครับ) มีรายนามอาหารดังที่พวกเราได้สรุปไว้ด้านล่างต่อไปนี้
- ตับห่าน (ฟัวกราส์) ทอดซอสพอร์ตไวน์ , ขากบทอดกระเทียมสไตล์ฝรั่งเศส ,เป็ดอบซอสส้ม
- หอยทากฝรั่งเศสครีมซอส ,หอยแมลงภู่ปรุงรสไวน์ขาวและครีม ,หอยนางรมฝรั่งเศสกับเลมอน
- เทอร์รีนหมูผัดกระเทียมและครีมข้นกลิ่นโหระพา ,เทอร์รีนหมูกับเฮเซลนัท ,เทอร์รีนผัก
- สเต็กและบาร์บีคิวซี่โครงแกะ/เนื้อแกะ/วัว/หมู/ไก่/กั้ง/ปลา/ปลาหมึกยักษ์/ไส้กรอกฝรั่งเศส ,ฯลฯ
- สลัดทูน่า/กุ้ง/ปูอัด/อโวคาโด/ข้าวโพด/แครอท/มะเขือเทศ/ผักสลัดชนิดต่างๆ
- น้ำสลัดเธาว์ซั่นไอซ์แลนด์/น้ำสลัดฝรั่งเศส/ซอสบรูชีส/น้ำมันมะกอก
- ซูชิ(ข้าวปั้น) ,มากิ(ข้าวห่อสาหร่าย) ,กุ้งและผักเทมปุระ
- ทูน่า/แซลมอนทาร์ทาร์ ,แซลมอนรมควัน ,ปลาบิทเทิลอบ ,ฟาร์เมอร์แบส , ปลาทอดกับเลมอน
และลูกแคปเปอร์ ,กุ้งพันเบคอนสไตล์ฝรั่งเศส ,กุ้งผัดพาสติสซอส ,เนื้อตุ๋นไวน์แดงสไตล์ฝรั่งเศส
- เนื้อเป็ดอบกับมันฝรั่งบด ,หมูผัดเนย ,ขนมปังกลมใส่ไส้ตะไคร้ ,ชีสนมแพะกับมะเขือเทศ
- พาสต้าซอสเห็ด ,เครปไส้เห็ด/เบคอน/แซลมอน/ผักโขม/ชีส ,ฯลฯ
- ทาร์ตมะนาว/อัลมอนต์ ,มูสเค้กสตรอเบอรี่/ผลไม้รวม/ช็อคโกแลต ,ซอล์ฟช็อคโกแลตเค้ก
- ช็อคโกแลตฟองดูว์ ,ครีมบรูลีวานิลลา/ถั่วพิสตาชิโอ้ ,ไข่หิมะกับซอสวานิลลา
- ไอศกรีมลูกเกด&รัม ,ไอศกรีมคุ้กกี้&ครีม ,ไอศกรีมสตรอเบอรี่
หลากหลายเมนูทั้งทางตะวันตก และ ตะวันออก
|
ของหวานต่างชนิด รสชาติต่างกัน แต่ดูแล้วน่าหม่ำทุกแบบเลย
|
พูดตรงๆแบบไม่อายว่าอาหารบางอย่างนั้นเกิดมาพวกเราก็เพิ่งเคยได้ยินชื่อและเพิ่งเคยรับประทานเป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็น “หอยทากฝรั่งเศสครีมซอส” หอยทากเนื้อหยุ่นๆ รสเค็มๆ มันๆ ชุ่มไปด้วยครีมข้นที่บรรจุอยู่ในรูกลางแป้งพายกรอบๆขนาดพอดีคำรสชาติดีพอใช้ได้ ใครชอบประสบการณ์แปลกใหม่ประหลาดพิสดารควรลองดู (ทีมงานของเราบางคนขอผ่านสำหรับอาหารรายการนี้) “ขากบทอดกระเทียมสไตล์ฝรั่งเศส” คนซึ่งเคยรับประทานกบทอดกระเทียมแบบไทยๆ มาแล้วคงไม่หวั่นสักเท่าไหร่กับอาหารรายการนี้ ขากบชิ้นอวบๆ หอมกลิ่นสมุนไพรอ่อนๆ กัดแล้วเนื้อหวานนุ่มชุ่มลิ้นไปด้วยน้ำซุปจากเนื้อกบ รสชาติคล้ายปีกบนไก่อบสมุนไพรแต่อร่อยกว่าประมาณ 2 – 3 เท่าเป็นรายการอาหารที่อร่อยจนไม่น่าพลาดเพียงเพราะความคิดว่ามันคือ “ขากบ” “ตับห่าน (ฟัวกราส์) ทอดซอสพอร์ตไวน์” ตับห่านหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ขนาดพอดีคำทอดจนหอมกรุ่นเสิร์ฟพร้อมขนมปังแผ่นบางปิ้งพอกรอบ เมื่อตักเข้าปากตับห่านก็แทบจะละลายหายไปบนลิ้นโดยไม่ต้องเคี้ยวตัดกับรสสัมผัสของขนมปังซึ่งกรุบนุ่มเป็นการผสานของสองความต่างที่ลงตัว รสชาติของตับห่านนั้นจะคล้ายคลึงกับรสชาติของผล “อโวคาโด” สุกหรือไข่แดงทอดสุก (รสชาติคล้ายไข่แดงของไข่ดาวที่ทอดจนสุก) ใครอยากลองลิ้มชิมตับห่านสักครั้งหนึ่งในชีวิตแต่ติดขัดที่ไม่อยากผลาญทรัพย์สินไปกับของซึ่งต้องกลายเป็น อจร.ภายใน 12 – 24 ชม.แล้วล่ะก็ (เพื่อความสุนทรีในการอ่านบทความ “บุฟเฟ่ต์อาหารฝรั่งเศสและอาหารนานาชาติ” ชิ้นนี้ ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมของเราจึงขอแสดงความหมายของตัวอักษรย่อ “อจร.” ไว้ในหมายเหตุด้านล่างบนความชิ้นนี้แทนครับ) อาจใช้วิธีทอดไข่ดาวสุกๆแล้วเลือกตักแต่ไข่แดงมาเหยาะซอสถั่วเหลืองรับประทานก็ให้รสชาติและรสสัมผัสได้ใกล้เคียงกับ “ตับห่านทอดซอสพอร์ตไวน์” ทีเดียว แต่ค่าใช้จ่ายในการรับประทานอาหารรสชาติคล้ายคลึงกัน 2 ชนิดนี้ช่างต่างกันราวอวกาศกับก้นเหวเลยนะ.......จะบอกให้ (บางคนซึ่งอ่านมาถึงบรรทัดนี้อาจหาว่าผู้เขียนบทความช่างไร้รสนิยมด้านอาหารเสียเหลือเกิน จนถึงขนาดหาญกล้านำอาหารสุดหรู “ฟัวกราส์” มาเปรียบเทียบกับอาหารระดับพื้นฐานสุดๆ “ไข่แดง” ได้ จึงขอเรียนให้ผู้อ่านทุกๆท่านทราบว่าความคิดเห็นต่างๆในบทความชิ้นนี้เป็นเป็นเพียงสิ่งซึ่งได้เรียบเรียงออกมาจากประสบการณ์จริงและจากก้อนสมองน้อยๆ ของผู้เขียนเท่านั้น บุคคลอื่นอาจมีความคิดเห็นแตกต่างจากบทความชิ้นนี้อย่างสิ้นเชิงก็เป็นไปได้ครับ) “หอยนางรมฝรั่งเศสกับเลมอน” ทีมงานของเราบางคนบอกว่าอร่อย บางคนก็บอกว่ารู้สึกเหม็นคาวซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะรับประทานหอยนางรมคนละตัวทำให้รสชาติไม่เหมือนกัน คำวิจารณ์สำหรับผู้ที่บอกว่าหอยนางรมฝรั่งเศสเหม็นคาวนั้นก็คือ กินหอยนางรมสดแบบไทยๆ จิ้มน้ำจิ้มทะเลแนมกับยอดกระถินอ่อนๆ อร่อยกว่าแถมไม่เหม็นคาวด้วย “กุ้งพันเบคอนสไตล์ฝรั่งเศส” กุ้งตัวโตพันด้วยเบคอนชิ้นใหญ่งดงามด้วยรูปลักษณะแต่รสชาติออกไปทางเค็มอ่อนๆ เลี่ยนๆ รสชาติด้อยกว่าความคาดหวังที่สังเกตเห็นได้จากหน้าตาภายนอก ต้องหาซอสซึ่งจัดวางเตรียมไว้ให้ใกล้ๆ ช่วยชูรสจะดีกว่า สำหรับอาหารอื่นๆนั้นก็พอหารับประทานได้ตามบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติทั่วๆไป อาหารบางรายการก็รสชาติน่าผิดหวังอย่างไม่น่าเชื่อ เช่น “สเต็กเนื้อแกะ” ซึ่งเหนียวสุดๆ ทั้งหั่นทั้งกัดทั้งทึ้งเนื้อก็ยังไม่ค่อยขาดออกจากกันเลย “ขนมปังกลมใส่ไส้ตะไคร้” ค่อนข้างจืดชืดแซมด้วยรสเค็มปะแล่มและมันหน่อยๆไม่ค่อยอร่อยนัก อาหารส่วนใหญ่ที่เหลือนั้นหากรับประทานไปเรื่อยๆแล้วจะรู้สึกมันเลี่ยนไม่สามารถรับประทานมากๆได้ ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้อาหารไทยที่กลมกล่อมไปด้วยรสเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด ขม อาจไม่ถูกใจอาหารหรูหราราคาสูงมื้อนี้สักเท่าไหร่นัก
หอยทากฝรั่งเศสครีมซอส (จานแรกสุดทางซ้าย) ชีสนมแพะกับมะเขือเทศ (ภาพที่ 2 - 3 จากซ้าย)
และสลัดกุ้ง + ปูอัด (ภาพขวาสุด)
|
เครปที่สามารถเลือกไส้ได้ตามใจชอบ ฟัวกราส์ และ เทอร์รีนหลากชนิด ตามลำดับ
|
บาร์บีคิวกั้งกระดาน (ภาพแรกจากซ้าย) หอยแมลงภู่ปรุงรสไวน์ขาวและครีม (ภาพที่ 3จากซ้าย)
|
อาหารอื่น ๆ อีกมากมาย รวมทั้งหน้าตาของเจ้าขากอบทอดกระเทียมสไตล์ฝรั่งเศส (ภาพสุดท้ายด้านขวา)
|
ในส่วนของขนมหวานต่างๆที่มีให้เลือกอย่างหลากหลายและจัดตกแต่งไว้อย่างสวยงามนั้นเป็นสิ่งซึ่งช่วยเสริมให้บุฟเฟ่ต์มื้อนี้คุ้มค่าขึ้นอีกหน่อย เพราะขนมหวานส่วนใหญ่นั้นอร่อยไม่น่าผิดหวัง ใครอยากลองลิ้มชิมขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสไม่ควรพลาด “ช็อคโกแลตฟองดูว์” กับผลไม้ตามฤดูกาลหั่นขนาดพอดีคำเสียบไม้เล็กๆไว้ให้หยิบได้สะดวกนำไปชุบน้ำพุช็อคโกแลตเคลือบให้ทั่วแล้วหยิบเข้าปาก ความสดชื่นของผลไม้สดตัดกับรสขมอ่อนๆปนหวานจางๆอร่อยชุ่มฉ่ำ คนที่ไม่ชอบผลไม้สดเคลือบช็อคโกแลตทาง “Citi Bistro” ก็มีมาร์ชเมลโลว์นุ่มเหนียวเสียบไม้ไว้ให้เป็นทางเลือกสำหรับช็อคโกแลตฟองดูว์ด้วย “ทาร์ตมะนาว ,ทาร์ตอัลมอนต์ ,มูสเค้กสตรอเบอรี่ ,มูสเค้กผลไม้รวม ,มูสเค้กช็อคโกแลต” อร่อยถึงเครื่องทั้งนม ,เนย ,ครีม เต็มเปี่ยมแบบไม่หวง “ไอศกรีมลูกเกด&รัม ,ไอศกรีมคุ้กกี้&ครีม ,ไอศกรีมสตรอเบอรี่” ไอศกรีมเนื้อข้นเหนียวเข้มทั้งสามรสชาติสามารถเพิ่มท้อปปิ้งเองได้ตามใจไม่ว่าจะเป็นถั่ว ,เยลลี่ ,ช็อคโกแลตอัดเม็ดหรือแยมผลไม้ คนที่ชอบขนมหวานรสนุ่มละมุนหวานอ่อนๆกลิ่นหอมกรุ่น “ไข่หิมะกับซอสวานิลลา ,ครีมบรูลีวานิลลา/ถั่วพิสตาชิโอ้” ก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย สำหรับ “ซอล์ฟช็อคโกแลตเค้ก” นั้นรสชาติธรรมดาเกินกว่าจะเสียเวลาบรรยาย
ข้อสรุปสุดท้ายของ “บุฟเฟ่ต์อาหารฝรั่งเศสและอาหารนานาชาติ” ณ ห้องอาหาร “Citi Bistro” โรงแรม “Pathumwan Princess” โดย “Chef Christophe Perrin” นี้ ทั้งเรื่องความอร่อยและความคุ้มค่านั้นคงต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินโดยพื้นฐานความชอบของแต่ละคนมากกว่า แต่สำหรับทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมของเราซึ่งส่วนใหญ่ชอบอาหารไทยเป็นทุนเดิมอยู่นั้น คิดว่าการไปหาร้านอาหารไทยดีๆ สักร้านโดยใช้งบประมาณในการรับประทานอาหารเท่าๆกันกับค่าหัวบุฟเฟ่ต์ข้างต้นน่าจะอร่อยคุ้มค่าคุ้มราคามากกว่ากันเยอะแต่หากใครอยากมาลองรับประทานอาหารหรูสไตล์ฝรั่งเศสแบบไม่อั้นล่ะก็ “บุฟเฟ่ต์อาหารฝรั่งเศสและอาหารนานาชาติ” ณ ห้องอาหาร “Citi Bistro” ถือว่าเป็นทางเลือกหนึ่งซึ่งใช้ได้ครับ
ไข่หิมะ ไอศครีม ครีมบรูลีวานิลลา/ถั่วพิสตาชิโอ รวมมิตรเค้กและพายชนิดต่าง ๆ ตามลำดับ
|
การเดินทาง
โรงแรมปทุมวันปริ้นเซส อยู่ข้างมาบุญครองเซ็นเตอร์บนถนนสายหลักมุ่งสู่สยามสแควร์
คะแนนความพึงพอใจ (หัวข้อละ 10 คะแนน)
ความสะอาด 9.2
รสชาติ 7.8
บรรยากาศ 8.5
ราคาและความคุ้มค่า 7.9
การบริการ 8.7
|
หมายเหตุ
1.การให้ความเห็นและคะแนนเป็นไปตามประสบการณ์ส่วนบุคคลของทีมงานเท่านั้น
บุคคลอื่นอาจมีความคิดเห็นแตกต่างจากนี้ได้
2.คะแนนในหัวข้อราคาและความคุ้มค่า อ้างอิงจากรสชาติ ปริมาณอาหารและความสะอาดเป็นสำคัญ
|
|